วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กิจกรรมที่ 12

ระหว่างวันที่ 17-23 มกราคม 2554 หลักสูตรสังคมศึกษาได้จัดทัศนศึกษาภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร ซึ่งกิจกรรมนี้ถือว่าเป็นการบูรณาการจัดการเรียนการสอน โดยใช้กิจกรรมทัศนศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้  ให้นักศึกษาเล่าบรรยากาศ การเดินทาง สิ่งที่พบและเกิดองค์ความรู้ใหม่ ลงในบล็อกของนักศึกษาและนำเสนอ    ผลงานของนักศึกษาเป็นรายบุคคล เป็นโปรแกรม Slide.com หรือโปรแกรมนำเสนออื่น ๆ ให้นำมาใส่ลงบล็อกของนักศึกษา  และสำหรับนักศึกษาที่ไม่ได้ไปทัศนศึกษาให้นำเสนอว่าในช่วงเวลาดังกล่าว นักศึกษาทำกิจกรรมอะไร ได้องค์ความรู้อะไร สรุปเขียนลงในบล็อก และนำเสนอผลงานที่นักศึกษาได้ทำ ทำเป็น Slide.com หรือโปรแกรมนำเสนออื่น ๆ ลงในบล็อกของนักศึกษาเช่นกัน
      สรุปงานนักศึกษาจะมี 2 ชิ้น คือ
      1) สรุปเล่าเหตุการณ์การเดินทางและองค์ความรู้ที่พบลงในบล็อกของนักศึกษา
      2) นำเสนอรูปภาพมีคำบรรยายประกอบรูปภาพ ลงในโปรแกรม Slide.com หรือโปรแกรมอื่น ๆ
      ในกิจกรรมนี้ถือว่าเป็นการศึกษานอกสถานที่ นักเรียนต้องออกแบบเก็บข้อมูลให้ละเอียดมากที่สุด

ความประทับใจ
โครงการศึกษาภาคสนาม  (ภาคเหนือภาคกลางของประเทศไทย)
วนอุทยานแพะเมืองผี  จังหวัดแพร่
วนอุทยานแพะเมืองผี  ตั้งอยู่ระหว่าง  ตำบลทุ่งโฮ้งและตำบลน้ำชำ  อำเภอเมือง  จังหวัดแพร่ห่างจากตัวเมืองราว  15  กิโลเมตร  เป็นสถานที่น่าตื่นใจมากสำหรับข้าพเจ้าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มหัศจรรย์ที่ก้อนดินสามารถก่อตัวเป็นแท่ง  เป็นหย่อมได้  นักธรณีได้ประมวลค่าของดินในบริเวณ  “แพะเมืองผี” ว่าอยู่ในยุคควาเทอร์นารี  ซึ่งมีอายุประมาณ  10,000,000,000  ปี  ซึ่งลักษณะของการเกิดเสาหิน  เกิดจาการกรวดดิน  หิน  ทราย  จับตัวกัน  ยังไม่หนาแน่น  ซึ่งประกอบด้วยชั้นหิน  ทรายละเอียด  และการผุพังไม่เท่ากัน  เมื่อฝนตก  เกิดลม  ชั้นหินที่มีความต้านทานน้อยกว่าก็จะถูกชะล้าง  กัดกร่อนโดยง่าย  เหลือเพียงชั้นที่มีความต้านทานต่อความผุกร่อนมากกว่าจนทำให้เป็นแท่ง  เป็นหย่อม  และมีรูปร่างแตกต่างกันออกไปอย่างที่เห็น  ความหมายของสถานที่นี้เชื่อว่า  “แพะ”  หมายถึง  ป่าละเมาะ “ เมืองผี”  หมายถึง  ความเงียบเหงา  ดั้งนั้นแพะเมืองผี  จึงมีความหมายว่า  สถานที่ที่มีความเงียบเหงาเหมือนเมืองผี  จากการที่ข้าพเจ้าศึกษาจากลุงคนหนึ่ง  ลุงบอกว่า  “ในสมัยอดีตสถานที่นี้เคยเป็นทางไหลผ่านของแม่น้ำยมแต่ในปัจจุบันนี้แม่น้ำยมได้เปลี่ยนทางไหลผ่าน  ทำให้สถานที่นี้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างนี้เห็น” ข้าพเจ้ามีความประทับใจอย่างมากกับวนอุทยานแพะเมืองผี เพราะปรากฏการณ์อย่างนี้หาดูยากและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา  ถ้าวันหนึ่งวันใดข้าพเจ้าได้มาสถานที่นี้อีกสภาพพื้นที่ที่นี้ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปอีก  ก็จะสามารถเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงจากอดีตสู่ปัจจุบันได้
ดอยปุย  จังหวัดเชียงใหม่
ก่อนเข้ามาในพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวเขา  ต้องจ่ายค่าผ่านทางคนละ  10  บาท  ตลอดแนวเดินขึ้นไปจะมีของขาย  เช่น  เสื้อผ้าชาวเขา  เสื้อผ้าฝ้ายแท้  ผลไม้เชื่อม  ชาเขียวแห้ง  ของประดับ  และร้านอาหารทั้งพุทธและอิสลาม  ตลอดแนวทางเดินทั้งสองด้าน  เมื่อถึงบนดอยพวกเราก็ไปร้านชุดชาวเขาเพื่ออเช่าชุดละ  30-50  บาทต่อชุด  และข้าพเจ้าได้จ้างถ่ายรูปอีก  60  บาท  รูปที่ได้สวยมาก  มีเขียนไว้ที่มุมบนขวารูปว่า  DOIPUI  CHIANGMAI  THAILAND  และมุมล่างซ้ายว่า  พิพิธภัณฑ์ดอยปุย  การแต่งตัวเป็นชาวเขาเป็นอีกความประจับอย่างหนึ่งในชีวิต  จะมีสักกี่คนที่ได้ใส่เสื้อชาวเขาร่วมกับเพื่อนๆจำนวนประมาณ   24  คน  วันนั้นดอกปุยมีความสดใสอย่างมากเมื่อมีนักศึกษาจากราชภัฏนครศรีธรรมราชได้ไปเยี่ยมชมพร้อมกับความน่ารัก  สถานที่บนดอกปุยมีความสวยมากอย่างมาก  ดอกไม้มีความหลากหลายทั้งชนิดของดอกไม้และสีสันของดอกไม้  อากาศที่บนดอกปุยเป็นอากาศที่สดชื่นมากไร้มลพิษอย่างเช่นในเมือง ตอนนั้นข้าพเจ้าหาดอกทิวลิปในสวนบนดอกนั้น  แต่ก็หาไม่เจอข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า  “ถ้าข้าพเจ้ามีโอกาสข้าพเจ้าจะมาเที่ยวที่นี้อีก  และคงจะได้เจอดอกทิวลิปดอกที่ข้าพเจ้าใฝ่ฝันเป็นแน่นอน” 
สูงสุดแดนสยาม  ดอยอินทนนท์  จังหวัดเชียงใหม่
ในวันที่ได้พักค้างคืนบนดอยอินทนนท์  เป็นความประทับสุดๆ ที่ชีวิตข้าพเจ้าได้พบเจอ  และสัมผัสถึงความหนาวเย็น  คืนวันที่  21  มกราคม 54  เวลา  21.00 น.  อากาศช่วงนั้นประมาณ  15 องศา  และเมื่อเวลา  23.00 น.  ข้าพเจ้ากับเพื่อนและรุ่นน้องร่วม  5 คนก็ได้ลงไปดูปรอทอีกพบว่าอากาศตอนนั้นประมาท  14 องศา  ในคืนนั้นอากาศหนาวเย็นมากข้าพเจ้าอาบน้ำ  น้ำในห้องน้ำเย็นราวกับน้ำแข็ง ในคืนนั้นข้าพเจ้านั่งใกล้เตาถ่าน  กินขนมและพูดคุยกับเพื่อนจนถึงเที่ยงคืน  เมื่อเช้าวันที่  22  มกราคม 54  เวลา  05.00  น.  เราทั้งหมดก็ได้ขึ้นรถไปบนยอดดอยอินทนนท์  ที่เรียกว่าสูงสุดแดนสยาม  บนยอดดอยตอนนั้นมีอุณหภูมิ  4 องศา  พวกเรานั่งรถกอดกันเพราะอากาศหนาวมาก  มือเท้าเย็นจนชาไปหมด  แต่วันนั้นเสียดายมากที่ไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นและแม่ขนิ้ง  (น้ำค้างแข็ง)  ข้าพเจ้าหาแล้วแต่หาไม่เจอ  อาจเป็นเพราะว่ามืดมองไม่เห็นก็ว่าได้  หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อไปที่  พระมหาธาตุ  นภพลภูมิสิริ  เป็นสถานที่สวยมาก  ตกแต่งด้วยดอกไม้หลากหลายชนิดเป็นสวนที่น่าประทับใจอย่างขึ้น  สามารถมองลงมาเห็นทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง  ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวที่นี้อีกข้าพเจ้าหวังว่าจะได้มีโอกาสเห็นแม่ขนิ้งสักครั้งในชีวิต



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น